Kaori no Sato Herb Garden บ้านสมุนไพรในเมืองฮอกไกโด
Kaori no Sato Herb Garden บ้านสมุนไพรในเมืองฮอกไกโด
ฤดูกาลที่ญี่ปุ่น แบ่งออกเป็น 4 ฤดูอย่างชัดเจน จากฤดูร้อนเป็นฤดูใบไม้ร่วง พ้นช่วงใบไม้เปลี่ยนสีก็ต่อด้วยฤดูหนาวที่เต็มไปด้วยหิมะขาวโพลน แล้วพอหมดช่วงหน้าหนาวก็เข้าสู่เวลาที่สาวๆ รอคอย นั่นก็คือฤดูใบไม้ผลิ ฤดูที่ดอกซากุระบานและมีเทศกาลชมดอกไม้แสนสวยบังเอิญว่าครอบครัวของเรามีอยู่เพียงสาวเดียว ซึ่งแม้อายุจะปาเข้าไปหลักสี่แล้ว แต่ก็ต้องนับว่าคุณแม่ของผมนั้น ยัง ‘สาว’ ที่สุดในบ้านครับ
ถ้าพูดถึงทุ่งดอกไม้ที่โด่งดังของจังหวัดฮอกไกโด นักท่องเที่ยวก็มักจะนึกถึงดอกลาเวนเดอร์เป็นอันดับแรก แต่ผมขอนำเสนอดอกไม้จิ๋วๆ อย่าง ‘พิ้งก์มอส’ ที่หลายคนอาจยังไม่คุ้นเคยบ้างดีกว่า เพราะอีกไม่นานก็จะถึงเวลาที่ดอกพิ้งก์มอสจะบานพร้อมๆ กันจนภูเขาทั้งลูกกลายเป็นสีชมพูไปเลย ตัวการ์ตูนที่เป็นสัญลักษณ์ประจำเมือง หรือแม้แต่ไอศกรีม Soft Cream ของเมืองนี้ก็ยังกลายเป็นสีชมพูไปด้วยครับ ทุ่งดอกพิ้งก์มอส (ภาษาญี่ปุ่นเรียกว่า ‘ชิบะซากุระ’) เป็นสัญลักษณ์ของเมืองทากิโนะอุเอะ ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นเมืองแห่งเทพนิยาย วิวทิวทัศน์ของที่นี่เป็นเนินเขาเล่นระดับ มีอาคารรูปทรงแปลกๆ คล้ายกับปราสาทหรือบ้านคนแคระในเทพนิยายตั้งอยู่อย่างโดดเด่นบนยอดเขา
หลังจากวิ่งเล่นและถ่ายรูปจนหนำใจแล้ว พวกเราก็ได้เข้าไปเยี่ยมชมข้างใน Kaori no Sato Herb Garden กันต่อ ทันทีที่เปิดประตูก็จะได้กลิ่นหอมของดอกไม้และสมุนไพรนานาชนิด แถมยังมีเวิร์คชอปที่น่าสนใจ เช่น การทำบุหงารำไป หรือการผลิตสบู่สมุนไพรด้วยตนเอง โดยมีคุณครูมาสอนให้ลงมือทำทีละขั้นตอนอย่างใกล้ชิด ผมสนุกกับการนำส่วนผสมมาคลุกเคล้าแล้วปั้นเป็นก้อนสบู่รูปหัวใจ ส่วนคุณแม่ก็บรรจงตกแต่งด้วยช่อดอกไม้แห้งลงไปให้สวยงาม เป็นกิจกรรมที่มีส่วนร่วมกันได้ทั้งครอบครัว แถมยังได้ของที่ระลึกติดไม้ติดมือกลับมาอีกด้วย
คุณพ่อเริ่มทำจมูกฟุดฟิดเมื่อได้กลิ่นหอมๆ ลอยมาเตะจมูก คราวนี้ไม่ใช่กลิ่นดอกไม้ แต่กลายเป็นกลิ่นหอมของอาหารชุดใหญ่ (แหม…ทำสบู่จนเหนื่อยก็เลยต้องเติมพลังกันหน่อยสิครับ) ทั้งสเต็กแฮมเบิร์กนุ่มลิ้น ผักสดกรอบอร่อย ตบท้ายด้วยขนมหวานและแยมที่ผลิตจากวัตถุดิบในท้องถิ่นล้วนๆ กินคู่กับชาสมุนไพรหอมชื่นใจมากครับ ก่อนจะลากลับบ้าน คุณครูผู้น่ารักก็ออกมายืนส่งเราที่หน้าประตู แล้วโบกมือบ๊๋ายบาย รวมทั้งโค้งคำนับหลายครั้งหลายหน คุณลุงสมุทรเล่าให้ฟังว่าเป็นธรรมเนียมของคนญี่ปุ่นที่จะให้ความสำคัญกับการทักทายและร่ำลาแขกผู้มาเยือน โดยเฉพาะตอนจากกัน เขาจะยืนส่งยิ้มให้เราอยู่อย่างนั้นจนกว่าเราจะเดินหรือขึ้นรถไปไกลลิบตา ดังนั้น ตามมารยาทที่เหมาะสม เราก็ควรโบกมือตอบกลับไปตลอดเช่นกัน (ไม่ควรแกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหรือทำนิ่งเฉยนะครับ)
นอกจากทุ่งดอกพิ้งก์มอสแล้ว เมืองนี้ก็ยังมีจุดชมวิวน้ำตกเหนือเขื่อนที่น่าตื่นตาตื่นใจอีกด้วย เป็นการเดินย่อยอาหารที่ดีมาก เพราะได้สัมผัสกับละอองน้ำเย็นๆ ขณะเดินชมพระพุทธรูปที่ตั้งอยู่รายทางไปจนถึงจุดถ่ายภาพ เมื่อมองลงไปด้านล่างจะเห็นฝูงปลาแซลมอนที่กำลังรวบรวมพลังว่ายทวนน้ำขึ้นไปด้านบน ซึ่งเป็นลักษณะตามธรรมชาติอันน่าทึ่งของปลาชนิดนี้แค่เห็นความพยายามของปลาแซลมอนที่ฮึดสู้ขนาดนี้ ผมก็รู้สึกฮึกเหิมขึ้นมาเลยครับ
ส่งท้ายก่อนกลับ ไหนๆ ก็มาถึงเมืองแห่งเทพนิยายทั้งที ผมเลยขอแวะไปเยี่ยมชมห้องสมุดประจำเมืองเพื่ออ่านนิทานหาแรงบันดาลใจกันสักหน่อยประเทศญี่ปุ่นให้ความสำคัญกับเรื่องการอ่านมากๆ ถึงห้องสมุดนี้จะไม่ใหญ่โตนัก แต่ก็มีหนังสือเด็กมากมายให้เลือกอ่าน และแม้ว่าจะไม่เข้าใจภาษาที่เขียน แค่ดูภาพก็ยังขำได้ครับ ผมเริ่มสนใจอาชีพ ‘บรรณารักษ์’ ขึ้นมาทันที เพราะนอกจากจะรู้จักหนังสือในห้องสมุดเป็นอย่างดีแล้ว ยังเป็นคนที่เล่านิทานเก่งมากๆ อีกด้วย เดี๋ยวพอนิทานนำเที่ยวเรื่อง ‘สวัสดี…ฮอกไกโด’ พิมพ์เสร็จเรียบร้อยก็จะส่งมาประจำการอยู่ที่นี่ด้วยแน่นอน ใครสนใจอยากมาเที่ยวและเรียนรู้วัฒนธรรมของญี่ปุ่น อย่าลืมติดตามนะครับ
ที่ตั้ง
Takinoue Park
Motomachi, Takinoue-cho,Mombetsu, Hokkaido, JAPAN
ค่าเข้าชมผู้ใหญ่500เยน เด็ก250 เยน (เก็บค่าเข้าชมเฉพาะช่วงที่มีเทศกาลพิ้งก์มอส)
ฤดูดอกไม้บานต้นเดือนพฤษภาคม-กลางเดือนมิถุนายน
โทรศัพท์ 0158-29-2111
www.town.takinoue.hokkaido.jp/02hana/phlox/kouen.html
Kaori no Sato Herb Garden
Motomachi, Takinoue-cho, Mombetsu, Hokkaido, JAPAN
เปิดทำการ เวลา 9.30 –16.30 น. (เฉพาะช่วงเดือนกันยายน-เดือนตุลาคม 9.30 – 16.00 น.)
โทรศัพท์ 0158-29-3400
www.town.takinoue.hokkaido.jp/02hana/herb/herbgarden.html
You must be logged in to post a comment.