รวม 10 พิกัด Fun Fun ปิดเทอมนี้ไปสวนสนุกกันที่เกาหลี
ปิดเทอมแล้วพาลูกๆ หลานๆ ไปเที่ยวต่างประเทศกันหน่อยไหมคะ เพื่อเปิดประสบการณ์ใหม่ๆ ให้กับเด็กๆ เกาหลีมีที่เที่ยวสวนสนุกมากมาย และสวนสนุกก็ไม่ได้เที่ยวได้แค่เด็กๆ เท่านั้น แต่พ่อแม่อย่างเราๆ ก็สนุกไปได้ด้วย ปลุกความเป็นเด็กในตัวเราให้ตื่นขึ้นอีกครั้งกับการเที่ยวสวนสนุก รื้อฟื้นความหลังมันส์ๆ ในวันวานไปพร้อมๆ กับลูกหลาน ไปเที่ยวเกาหลีช่วงปิดเทอมเที่ยวสวนสนุกนี่แหละ Fun Fun สนุกแน่นอน
จะไปเที่ยวสนุกที่เกาหลี ถ้าจะให้ดีเที่ยวเพลินๆ แบบไม่ต้องวางแพลนเที่ยวให้เหนื่อยใจ มาพร้อมราคาทัวร์เกาหลีสุดคุ้ม ก็แนะนำให้จองทัวร์เที่ยวเกาหลีกับ ทัวร์ครับ (Tourkrub) เว็ปไซต์ที่รวบรวมทัวร์ต่างประเทศที่ถูกใจคุณมากที่สุด จองทัวร์ครบจบที่ทัวร์ครับ
1.สวนสนุกล็อตเต้เวิลด์ (Lotte World)
สวนสนุกขนาดใหญ่อันมีชื่อเสียงระดับต้น ๆ ของเกาหลี ตั้งอยู่ริมทะเลสาบซกชอนโฮซู (Seokchonhosu Lake) แบ่งพื้นที่ออกเป็น 2 โซน คือโซนกลางแจ้ง หรือเมจิคแลนด์ (Magic Island) และโซนสวนสนุกในร่ม หรือล็อตเต้เวิลด์แอดเวนเจอร์ (Lotte World Adventure) ที่นับได้ว่าเป็นสวนสนุกในร่มที่ใหญ่ที่สุดในโลกอีกด้วย ตัวสวนสนุกถูกออกแบบอย่างสวยงามเสมือนตั้งอยู่บน ‘เกาะแห่งเวทมนตร์’ ริมทะเลสาบที่พร้อมสร้างความสนุกให้ทุกคนทุกวัย
เครื่องเล่นที่ห้ามพลาด : Gyro Drop และ Gyro Swing
พิกัด : Lotte World
2. สวนสนุกเอเวอร์แลนด์ (Everland)
ไปกันต่อกับสวนสนุกดังอีกแห่งหนึ่งของเกาหลี สวนสนุกเอเวอร์แลนด์ (Everland) สวนสนุกกลางแจ้งที่ใหญ่ที่สุดของเกาหลี ตั้งงอยู่บนหุบเขาซึ่งเพียบพร้อมไปด้วยเครื่องเล่นนานาชนิด แบ่งพื้นที่ออกเป็นโซนสระน้ำ สวนดอกไม้ และโซนซาฟารี ซึ่งมีทั้งสวนสัตว์, Global Fair, European Adventure, Magic Land, American Adventure, Everland Speedway และดินแดนเทพนิยายสวนสี่ฤดู อันเป็นดังสวรรค์สำหรับเด็ก ๆ
เครื่องเล่นที่ห้ามพลาด : รถไฟเหาะรางไม้ (Rolling X-Train หรือ T Express)
พิกัด : Everlan
3.สวนสนุกโซลแลนด์ (Seoul Land)
สวนสนุกแห่งแรกของเกาหลี ตั้งอยู่ห่างจากกรุงโซลเพียง 30 นาทีเท่านั้น ท่ามกลางทิวทัศน์ที่สวยงามของภูเขาช็องกเยซาน สวนสนุกแห่งนี้ออกแบบพื้นที่แบบเวิลด์สแควร์ (World Square) ที่เครื่องเล่นต่างๆ จะรายล้อมไปด้วยอาคารที่มีทั้งสถาปัตยกรรมแบบดั้งเดิมของเกาหลี และสถาปัตยกรรมจากทั่วทุกมุมโลกในเวลาเดียวกัน ภายในสวนสนุกโซลแลนด์ (Seoul Land) ประกอบไปด้วยเครื่องเล่นมากมายหลากหลายที่ไล่เรียงระดับความตื่นเต้นตั้งแต่เครื่องเล่นสนุกชิลล์ๆ แบบเด็กๆ ไปจนถึงเครื่องเล่นสุดหวาดเสียวท้าทาย
เครื่องเล่นที่ห้ามพลาด : The Sky X
พิกัด : Seoul Lan
4. สวนสนุกวอลมิ (Wolmi Theme Park)
สวนสนุกชื่อดังริมทะเลของเมืองอินชอน (Incheon) ตั้งอยู่บนเกาะ Wolmido Island บนพื้นที่กว่า 13,223 ตารางเมตร เป็นสวนสนุกเก่าแก่ที่มีมาตั้งแต่ปีค.ศ. 1992 ในชื่อสวนสนุกมายแลนด์ (My Land) ต่อมาในปี 2009 ได้รับการบูรณะปรับปรุงและเปลี่ยนชื่อใหม่เป็น สวนสนุกวอลมิ (Wolmi Theme Park) สวนสนุกแห่งนี้จะเน้นไปทางเครื่องเล่นที่สร้างความหวาดเสียว จนทำให้มีรายการสนุกๆ ของเกาหลีมาถ่ายทำรายการท้าทายความหวาดเสียวที่นี่อยู่บ่อยครั้ง
เครื่องเล่นที่ห้ามพลาด : Hyper Shoot Drop
พิกัด : Wolmi Theme Park
5. สวนสนุกคยองจูเวิร์ด (Gyeongju World Amusement Park)
สวนสนุกคยองจู (Gyeongju World Amusement Park) สวนสนุกที่ใหญ่ที่สุดของเกาหลีใต้ ขึ้นชื่อเรื่องเครื่องเล่นสุดหวาดเสียว โดยเฉพาะเครื่องเล่นน้องใหม่สั่งตรงจากอเมริกาสุดท้าทายความหวาดเสียวอย่าง Draken รถไฟเหาะที่ไม่มีผนังกันด้านข้างนั่งเรียงแถวหน้ากระดานแล้วพุ่งตัวทิ้งดิ่ง 90 องศาลงสู่พื้นด้านล่างจากระดับความสูง 62.5 เมตรด้วยความเร็วสูงถึง 114 กิโลเมตร/ชั่วโมง พร้อมทั้งหมุนตัวตีลังกาอีก 1 รอบ เรียกว่าเสียวแบบสุดๆ แก๊งไหนที่อยากท้าทายความเสียวต้องห้ามพลาดบอกเลย
เครื่องเล่นที่ห้ามพลาด : The Mega Drop และ Tornado
พิกัด : Gyeongju World Amusement Par
6. สวนสนุกทงโดแฟนตาเซีย (Tongdo Fantasia)
สวนสนุกทงโดแฟนตาเซีย (Tongdo Fantasia) เป็นทั้งสวนสนุกและสวนน้ำของเมืองปูซาน ในเขตเมือง Yangsan ที่แม้จะไม่ได้เป็นสวนสนุกที่มีขนาดใหญ่ติดอันดับต้นๆ ของเกาหลี หรือมีชื่อเสียงดังกระฉ่อน แต่ก็มีเครื่องเล่นเพียบพร้อมครบครันเลยทีเดียวทั้งในส่วนของสวนสนุกและสวนน้ำ มีเครื่องเล่นมากกว่า 30 ชนิด พร้อมทั้งลานหิมะและสวนสัตว์ภายในบริเวณสวนสนุกอีกด้วย
พิกัด : Tongdo Fantasi
7.สวนสนุกอีโค่แลนด์ (Eco Land Theme Park)
สวนสนุกสุดชิลล์บนเกาะเชจูอันสวยงามในแนวอนุรักษ์ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เข้ากับบรรยากาศของเกาะ ที่จะพาย้อนหลังสู่ดินแดนสีเขียวขจีในฝันของวัยเด็กด้วยรถไฟไอน้ำ ซึ่งจะทะยานผ่านกลางป่า Gotjawal Forest เพื่อชื่นชมทัศนียภาพทางธรรมชาติสุดตระการตา แล้วมาหยุดพักสบายๆ ที่สวนกังหันลมชิคๆ ท่ามกลางบรรยากาศชิลล์ๆ ของเกาะเชจู
พิกัด : Eco Land Theme Park
8. สวนสนุกอี-เวิลด์ ฟัน ปาร์ค (E-World Fun Park)
สวนสนุกอี-เวิลด์ ฟัน ปาร์ค (E-WORLD Fun Park) สวนสนุกแห่งเมืองแทกู (Daegu) สวนสนุกที่ใหญ่เป็นอันดับ 3 ของเกาหลีใต้ อันประกอบไปด้วยเครื่องเล่นที่หลากหลาย อาทิ รถไฟเหาะ, Balloon Race, Water Fall Plaza และบ้านผีสิง เป็นต้น สวนสนุกแห่งนี้มีเครื่องเล่นสุดหวาดเสียวยอดฮิตคือเครื่องเล่นสกายจั๊ม (Sky Jump) ส่วนใครที่เป็นสายหวาน สวนสนุกแห่งนี้ก็ยังมีสวนดอกไม้สไตล์ยุโรปสวยๆ เอาไว้ให้ชิลล์เพลินๆ ด้วย
พิกัด : E-World Fun Par
9. สวนสนุกควางจูแฟมิลี่แลนด์ (Gwangju Family Land)
สวนสนุกควางจูแฟมิลี่แลนด์ (Gwangju Family Land) สวนสนุกน่ารักๆ ของครอบครัวในเขตพื้นที่ Jeollabuk-do และ Jeollanam-do ที่แม้จะไม่ได้มีเครื่องเล่นหวือหวาน่าท้าทายนัก แต่คงความบันเทิงและความสนุกสนานเอาไว้ได้เป็นอย่างดี พอที่จะทำให้ย้อนหลังวันวานในวัยเยาว์ได้แบบเพลินๆ จนแอบลืมอายุตัวเองจริง ๆ ไปได้ทีเดียว
พิกัด : Gwangju Family Land (Uchi Park
10.สวนน้ำวิวอลดิ ปาร์ค โอเชียนเวิล์ด (Vivaldi Park Ocean World)
ปิดท้ายความสนุกแห่งสุดท้ายโดยย้ายมาที่สวนน้ำกันบ้าง ที่สวนน้ำวิวอลดิ ปาร์ค โอเชียนเวิล์ด (Vivaldi Park Ocean World) สวนน้ำธีมอียิปต์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม มาพร้อมกับเครื่องเล่นมาตรฐานระดับโลก ภายในสวนน้ำแบ่งออกเป็น 4 โซน ได้แก่ อินดอร์โซน (Indoor Zone), เอ็กซ์ตรีมโซน (Extreme Zone), ไดนามิกโซน (Dynamic Zone) และเมก้าสไลด์โซน (Mega Slide Zone) เครื่องเล่นทีเด็ดอยู่ที่ เอ็กซ์ตรีมริเวอร์ (Extreme River) ความยาว 300 เมตร
พิกัด : Vivaldi Park Ocean World
ครบแล้วทั้ง 10 ที่เที่ยวสวนสนุกเกาหลี รับรองว่าได้ Fun Fun กันทั่วหน้า พากันออกไปสนุกให้สุดเหวี่ยง ส่วนใครคิดจะเที่ยวปักหมุดให้ครบทั้ง 10 สวนสนุกเลยอันนี้ก็ต้องเผื่อเวลากันให้ดี ๆ หน่อยแล้วกัน เผื่อเวลาพักร่างตอนร่างพังกลับมากันสักหน่อยด้วยนะคะ เดี๋ยวจะ Fun เพลินจนพังแล้วจะหมดสนุกกันไปแทน
