จะนานแค่ไหน เกาะเกร็ดก็ยังร่วมสมัย มีอะไรให้เดินดูเพลินตาชิมเพลินพุงอยู่เสมอ จะพาเด็กๆ มาเที่ยวก็ดี หรือยิ่งถ้ามีแขกต่างบ้านต่างเมืองยิ่งน่าพามาเที่ยวด้วยใหญ่ เพราะอยู่ไม่ไกลและมีวัฒนธรรมไทยพื้นบ้านซ่อนต้วอยู่ตลอดทางเดิน
เริ่มต้นจากลานจอดรถที่วัดสนามเหนือ ถ้ามาสายลานจอดเต็มก็ต้องหาที่รับฝากรถใกล้ๆ แล้วมาลงเรือที่ท่าเรือในวัด ค่าข้ามฟากไปเกาะเกร็ดคนละ 2 บาท ลงที่วัดปรมัยยิกาวาสซึ่งเป็นวัดมอญ เดินตามคนเข้ามาเรื่อยๆ โดยยังไม่ต้องรีบซื้อทัวร์เที่ยวรอบเกาะ อย่างแรกที่จะเห็นคือร้านขายทอดมันหน่อกะลาซึ่งต่อไปก็จะเห็นมีขายตลอดทางที่เดินเที่ยว กะลาเป็นผักพื้นบ้านชนิดหนึ่งในตระกูลข่า ลำต้นยาว พบขึ้นอยู่บนเกาะเกร็ดที่เดียว ชาวมอญที่อาศัยบนเกาะเกร็ดนำหน่ออ่อนสีขาวมาลวกจิ้มน้ำพริก และใช้แทนถั่วฝักยาวในการทำทอดมัน จนกลายมาเป็นอาหารขึ้นชื่อของเกาะเกร็ดที่ต้องลอง นอกจากนี้ยังมีร้านขายผักชุบแป้งทอด และร้านขนมไทย ‘จ๊ะจ๋า’ ฝีมือประณีตชิ้นละ 10 บาท ชวนให้เลือกหยิบใส่กล่องเป็นของฝาก
ปักหมุดมื้อกลางวันไว้ที่ร้าน ‘เตี๋ยวอิงน้ำ’ สั่งก๋วยเตี๋ยวต้มยำ ผัดไทย หรือเมนูโบราณอย่างปลาแห้งแตงโมกับพนักงานในชุดไทยที่ใช้แท็บเล็ตรับออร์เดอร์ อิ่มแล้วเดินต่อไปจนถึงโรงปั้นดินเผา ถ้าอยากให้เด็กๆ ได้ลองปั้นหม้อก็ลงชื่อรอได้เลย แนะนำว่าใส่เสื้อยืดกับกางเกงขาสั้นมาจะดีกว่า เพราะคงต้องมีเลอะกันบ้าง จบจากกิจกรรมถ้าหิวอีกรอบเดินต่อมามีขนมตาลและร้านขนมถ้วยคันทรี่ให้แคะเองเพลินๆ