เที่ยวไทเป มือใครยาว ไปสาวบะหมี่ด้วยกัน

เที่ยวไทเป มือใครยาว ไปสาวบะหมี่ด้วยกัน

หอบลูกเที่ยวไกลถึงไทเปซึ่งเป็นเมืองหลวงของไต้หวัน ตอนเช้าพามาเรียนรู้วิธีทำบะหมี่ 6 ดาว จากนั้นลัดเลาะขึ้นบนเขา ไปดูโรงงานทำน้ำตาลและซีอิ๊วโบราณที่ตั้งมาหลายสิบปี ตกเย็นไปชมไร่ชาออร์แกนิกเรียงรายหลายร้อยไร่ พร้อมกับเรียนรู้วิธีการเก็บใบชาและการชงชา

ไต้หวันไม่ไกลจากเมืองไทยมากนัก เพียงแค่ 4 ชั่วโมงก็ถึงแล้ว จากสนามบินเข้าตัวเมืองไทเปใช้เวลาประมาณ 50 นาที ป้ายบอกทางต่างๆ มีภาษาอังกฤษตลอด เพียงแต่คนไทเป ส่วนใหญ่จะพูดภาษาอังกฤษไม่ได้ ดังนั้นต้องเตรียมแผนที่เป็นภาษาจีนไว้กับตัว ส่วนเด็กๆ ที่เรียนภาษาจีนกลางมาจากเมืองไทย ก็จะได้ช่วยคุณพ่อคุณแม่ด้วยการเป็นไกด์ตัวน้อยแปลภาษาจีนให้ ได้ทั้งท่องเที่ยวและฝึกภาษาแถมไปในตัว ตอนเช้าเรานั่งรถไปยังภูเขาทางใต้ของเมืองไทเป เรียกว่า Maokong Mountian ถนนระหว่างทางมีลักษณะคดเคี้ยวและมีหลายแยก วิวทิวทัศน์ร่มรื่น มีต้นไม้ระหว่างทาง พร้อมกับไร่ชาที่ปลูกเป็นขั้นบันได มองออกไปไกลๆ ก็เห็นแต่ภูเขาไร่ชาหลายสิบลูก แม่น้ำสีเขียวมรกตที่ไหลผ่านภูเขาดูสะอาดตา ขับรถออกมาได้ชั่วโมงนิดๆ ก็มาถึงบ้านที่ทำบะหมี่ วันนี้อากาศไม่ร้อนมาก เนื่องจากมีพยากรณ์อากาศว่าฝนอาจจะตก ทำให้แดดร่มและลมพัดตลอด เหมาะสำหรับออกไปฝึกวิทยายุทธ์ในการยืดเส้นบะหมี่มากๆ

ขั้นตอนแรก เจ้าของบ้านพาไปชมวิธีผสมบะหมี่ ซึ่งส่วนผสมก็มี 3 อย่างเท่านั้น คือ เกลือ แป้ง และน้ำ ซึ่งจะใช้แป้งเก่าจากเมื่อวานผสมลงไปอีกนิดหน่อยเพื่อเพิ่มรสชาติของบะหมี่ เจ้าของบ้านบอกสาเหตุที่ต้องมาทำบะหมี่บนภูเขาห่างไกลจากเมือง เพราะว่าบะหมี่ต้องตากกลางแสงแดดหลายชั่วโมง ดังนั้นอากาศที่บริสุทธิ์บนภูเขาเป็นเคล็ดลับที่จะทำให้บะหมี่มีรสชาติอร่อย ซึ่งความพิธีพิถันแบบนี้ทำให้ลักษณะของบะหมี่มีเส้นเล็ก เหนียวนุ่มและเด้ง สุดยอดบะหมี่ 6 ดาว ใครอยากชิมต้องอดใจรอคิวยาวถึง 2 เดือนเลยทีเดียว เมื่อส่วนผสมรวมกันเป็นเนื้อเดียวหมดแล้ว ก็ถึงเวลายืดเส้นบะหมี่เด็กๆ สนุกมากที่ได้ดึงเส้นแล้วก็โยนให้แป้งกระเด็นออกมา แถมพอใช้แรงงานเสร็จ เจ้าของบ้านยังไปหยิบแป้งบะหมี่มาให้เด็กๆ เอามากระโดดเชือกเล่นกันด้วย ทำให้รู้ว่าเส้นบะหมี่ที่นี่เหนียวมากจริงๆ กระโดดเล่นตั้งนานยังไม่ยอมขาดเลย

พอออกจากบ้านบะหมี่ เราก็ขับรถข้ามภูเขาอีกลูกเพื่อจะไปเก็บใบชา มีเจ้าของไร่ชาเป็นคนออกมาสอนวิธีการดูยอดอ่อนใบชา กว่าจะได้ใบชามาแต่ละใบไม่ได้หาง่ายๆ เลยนะ พอเด็กๆ เด็ดมาแล้วก็ต้องวิ่งไปหาเจ้าของไร่ให้เช็คก่อนว่าถูกต้องหรือเปล่า บางทีใบชาสีเข้มไป บางทีใบชาแก่ไป เด็ดกันอยู่ซักพักถึงจะคุ้นเคยกับยอดใบชาอ่อน พอเก็บใบชาได้คนละถุง ก็ย้ายไปที่บ้านเจ้าของไร่ชา สอนวิธีการชงชาและให้ชิมชารสชาติต่างๆ พร้อมกับซื้อชาออร์แกนิกกลับบ้านกัน

ก่อนกลับเราแวะกันที่โรงงานทำน้ำตาลและซีอิ้ว ซึ่งมีลักษณะเหมือนบ้านมากกว่า ที่นี่จะทำน้ำตาลโดยใช้ส่วนผสมแค่ 3 อย่างเท่านั้นคือ ยีสต์ มอลท์ และน้ำ ตั้งในกระทะและกวนไปเรื่อยๆ จนได้น้ำตาลลักษณะเป็นของเหลวสีทองๆ รสชาติคล้ายๆ กับวานิลลาผสมกับกลิ่นหอมของอัลมอนด์ อร่อยมากๆ น้ำตาลที่นี่ขายเป็นกระปุก และต้องรอคิวยาวถึง 1 เดือนครึ่งเลยทีเดียว

วันนี้ก็จบลงด้วยความสนุกสนาน เสียอย่างเดียวที่ภูเขามันคดเคี้ยวมากไปนิด นั่งรถนานก็ออกจะมึนๆ นิดหน่อย แต่ถ้าเทียบกับความสนุกและสิ่งที่ได้เรียนรู้ ถือว่าคุ้มค่ามากเลย

ติดต่อ

แพ็กเกจทัวร์ 1 วันเดินทางด้วยรถตู้
ค่าใช้จ่ายโดยประมาณ 3,300 บาท/คน
โทรศัพท์ +886-2-2523-3881
Email: service@mytaiwantour.com
www.mytaiwantour.com
www.welcome2taiwan.net