บางสะพานมีทั้งความเสี่ยงและความสนุก ควรศึกษาข้อมูลก่อนตัดสินใจไปดำน้ำ
บางสะพานมีทั้งความเสี่ยงและความสนุก ควรศึกษาข้อมูลก่อนตัดสินใจไปดำน้ำ เป็นคำเตือนคุณพ่อคุณแม่ที่กำลังจะวางแผนหอบลูกเที่ยวอำเภอบางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์
ความเสี่ยงแรก เกิดจากความตั้งใจออกเรือไปดำน้ำดูปะการัง ถ้าเช้านั้นฝนตก ก็ต้องงดออกเรือไปโดยปริยาย (เอ๊ะ…ทัวร์ดำน้ำที่ไหนๆ ก็เป็นแบบนี้เหมือนกันชิมิ)
ความเสี่ยงที่สอง เกิดจากการไปหาประสบการณ์เสี่ยงโชคร่อนทอง ถ้าโชคดีอาจได้ทองกลับบ้าน หรืออาจกางเกงแฉะโดยไม่ได้อะไรติดมือกลับไปเลย (ฮึ๊ย…เมืองไทยยุคนี้มีที่ให้ร่อนทองด้วยเหรอ)
ศึกษาข้อมูลก่อน
อ.บางสะพานอยู่ห่างจากตัวเมืองหัวหินลงมาทางใต้อีกประมาณ 160 กิโลเมตร คือถ้าขับจากตลาดนัดซิคาด้ามาก็ประมาณ 2 ชั่วโมงได้ จุดท่องเที่ยวแจ่มๆ จะอยู่บริเวณชายหาดบ้านกรูด ซึ่งเป็นชายหาดยาวต่อเนื่องเกือบ 18 กิโลเมตร ไล่ลงไปเป็นอ่าวบ่อทองหลาง, หาดสวนหลวง และ แหลมสน ส่วนกิจกรรมที่แจ๋วๆ นอกจากจะเล่นน้ำทะเลแล้ว ยังมีทัวร์ไปดำน้ำตามเกาะ และเรียนรู้การร่อนทองตามแบบภูมิปัญญาชาวบ้าน
ตัดสินใจออกเดินทาง
วันที่ 1 : อุทยานราชภักดิ์ – หาดสวนหลวง อ.บางสะพาน
ขนสัมภาระใส่ท้ายรถ Isuzu MU-X ประจำครอบครัว มุ่งหน้าสู่ประจวบคีรีขันธ์ เปิดหนังให้ลูกดูจบไปเรื่องนึง มองเห็นป้าย ‘อุทยานราชภักดิ์’ นึกได้ว่ายังไม่เคยไปสักการะพระบรมราชานุสาวรีย์บูรพกษัตริย์ทั้ง 7 พระองค์ จากที่วิ่งอยู่บนเส้นเลี่ยงเมืองก็เลยเลี้ยวรถตัดเข้าไปสาย 4 ใหม่ ใครรู้บ้างว่าเขามีรถชมวิวพาวนรอบอุทยานวันละ 2 รอบโดยไม่คิดค่าบริการนะ
โอ้เอ้ไปมากว่าจะถึงบางสะพานก็เย็นแล้ว แนะนำให้เลือกที่พักแถวๆ หาดสวนหลวงหรือหาดสน เพราะว่าพรุ่งนี้เราจะไปทัวร์ดำน้ำกันตั้งแต่ 8 โมง ระยะทางจะได้ไม่ไกลกันมาก (ไม่ต้องตื่นเช้าว่างั้นเหอะ) ที่พักแนะนำในบริเวณนี้ได้แก่ Seanery Beach Resort, The Theatre Villa , ไอทะเลรีสอร์ท และ Sunrise Resort เราเลือกนอนพักที่เดอะ เธียเตอร์ วิลล่าค่ะ เป็นที่พักติดหาดเลย หาดยาวทรายละเอียดน่าเล่นน้ำมาก แต่ห้องที่เราอยู่เป็นเรือนไทยอยู่ถัดเข้ามาด้านหลังอีกหน่อย ห้องกว้างขวางดี เพิ่มที่นอนเสริมได้สบายๆ อีกหลังสองหลัง เจ้าของรีสอร์ทน่ารักและอัธยาศัยดีจริงๆ ดูแลเองตั้งแต่มารับถึงประตูรถ พาส่งห้องพัก บริการอาหารเช้าแบบต้องขอให้หยุดเสิร์ฟ เพราะที่ยกมาเรื่อยๆ นี่ก็จะรับประทานไม่หมดอยู่แล้ว ส่วนมื้อเย็นไปฝากท้องได้ที่ร้านอาหารไอทะเล ของไอทะเลรีสอร์ตซึ่งอยู่ไม่ไกลกัน (ไอทะเลรีสอร์ท ไม่ใช่ อุ่นไอทะเล นะคะ มี 2 ที่ในบางสะพานชื่อคล้ายกัน) ถ้าไม่มืดมากก็เดินเลียบหาดไปได้ แต่ถ้ามืดแล้วขับรถไปดีกว่า อาหารอร่อยไม่แพงค่ะ
วันที่ 2 : ทัวร์ดำน้ำเกาะทะลุ
เรือที่จะไปเกาะทะลุจะออกจากท่าที่บริเวณหาดสน หรือ หาดแหลมสน ต้องสอบถามบริษัททัวร์ดีๆ นะคะว่าท่าไหน เพราะมีหลายท่า สำหรับทัวร์ที่เราเลือกใช้บริการคือ talutrips มีจุดลงเรือที่หาดแหมสน พิกัด N11.087889 E99.491120 ราคาทัวร์ ผู้ใหญ่ 350-400 บาท เด็ก 200-250 บาท (อันนี้แล้วแต่เราจะต่อรองราคาได้และขึ้นอยู่กับว่าไปช่วงไฮหรือโลว์ ตัวหารเต็มลำหรือเปล่า ลองจองผ่านรีสอร์ทดูบางทีก็ได้ราคาดีเหมือนกัน) มีน้ำดื่ม ผลไม้ ข้าวกล่อง หน้ากากดำน้ำและเสื้อชูชีพครบ (มีเสื้อชูชีพไซส์เด็กอยู่ 3-4ตัว ย้ำให้เขาเตรียมให้ลูกเราด้วยนะคะ)
**ตอนจองทัวร์ อย่าลืมแจ้งเขาว่าขออาหารกล่องแบบไม่เผ็ดสำหรับเด็กนะคะ จะเป็นข้าวหมูทอดไข่เจียวก็ได้ แล้วพอขึ้นเรือปุ๊บก็แสดงตัวขอแยกข้าวกล่องเด็กที่ขอไว้ออกมาก่อนเลย ครอบครัวเราเจอมาแล้วคือเขาจัดข้าวกล่องเด็กไว้ให้ตามคำขอ แต่วางรวมไว้กับกะเพราของคนอื่นๆ ในกรุ๊ป พอถึงเวลาอาหาร บ้านอื่นคว้าของเราหมดเหลือไว้แต่ผัดเผ็ดกะเพราค่ะ …จ๋อยเลย
จอดรถไว้ใต้ต้นไม้ใหญ่ตรงท่าเรือได้เลย เรือออกจากท่าเวลา 8.30 น. นั่งไปสัก 25 นาทีก็ถึงเกาะทะลุ จอดเรือห่างๆ ถ่ายรูปให้เห็นช่องทะลุ แต่ขึ้นบนเกาะไม่ได้ เพราะเป็นเกาะสัมปทาน ต้องจองแพกเกจห้องพักกับเกาะทะลุไอส์แลนด์รีสอร์ทเท่านั้นถึงจะขึ้นเกาะได้ จากนั้นเรือจะพาไปจุดดำน้ำรอบๆ เกาะ ดูตามสภาพน้ำขึ้นและแรงลม จุดที่สวยที่สุดคือหาดกรวด แนวปะการังสมบูรณ์มากๆ Sea Anemone หรือดอกไม้ทะเลบ้านของนีโม่นั้น บางต้นใหญ่ขนาด 3 คนโอบเลยเชื่อไหมคะ แล้วหอยมือเสือก็เยอะมาก ช่วงที่เรามามีเรือจอดอยู่แล้ว 2-3 ลำ แต่นักท่องเที่ยวก็กระจายห่างกันเพราะแนวปะการังกว้าง ดีใจที่เห็นทุกคนพยายาลอยตัวเหนือน้ำโดยไม่ลงไปยืนเหยียบบนปะการัง แสดงว่าโซเชียลมีเดียมีส่วนอย่างมากในการให้ข้อมูลความรู้เรื่องการช่วยกันอนุรักษ์
เราแวะอีก 2 จุดคือบริเวณหาดขาม พักรับประทานอาหารกลางวันครึ่งชั่วโมง ก่อนจะลงดำน้ำอีกครั้งที่บริเวณปลายแหลมของเกาะ สองจุดหลังนี้สีสันของปะการังน้อยกว่าหาดกรวด แต่ปลานกแก้วตัวโตๆ เยอะมาก 13.30 น.ก็เข้าถึงฝั่งแล้วค่ะ มีห้องอาบน้ำอยู่ตรงท่าเรือให้เปลี่ยนเสื้อผ้า เด็กบ้านนี้ไม่เปลี่ยนค่ะ เพราะตั้งใจไปเล่นน้ำสระที่โรงแรมกันต่อ
บ้านกรูด อาเคเดีย รีสอร์ทแอนด์สปา
เราขับรถออกจากท่าเรือย้อนขึ้นเหนือไปทางหาดบ้านกรูด เพราะนอกจากชายหาดจะยาวววววมากแล้ว ยังอยู่ใกล้อุทยานวัดทางสายบนยอดเขาธงชัย ที่พักแนะนำในบริเวณนี้มีให้เลือกเยอะ เราเลือกที่บ้านกรูด อาเคดีย รีสอร์ทแอนด์สปา ไม่ผิดหวังค่ะ ห้องพักกว้างขวางสะอาดดี นอนสบาย มีสระว่ายน้ำ 2 สระใหญ่ หาร้านอาหารง่าย อาหารเช้าอาจจะชืดไปหน่อย คือพนักงานไม่ค่อยดูแลเรื่องการอุ่นอาหาร การไล่มดแมลงตามโต๊ะ แต่โดยรวมถือเป็นโรงแรมที่เหมาะกับครอบครัว
พระมหาธาตุเจดีย์ภักดีประกาศ
บนยอดเขาธงชัยนี้มีสถานที่สำคัญ 2 แห่งคือ ‘พระมหาธาตุเจดีย์ภักดีประกาศ’ ซึ่งสร้างขึ้นเพื่อเป็นที่ระลึกการครองราชย์ครบรอบ50 ปี ของพระบาทสมเด็จพระปรมิทรมหาภูมิพลอดุยเดช ออกแบบโดยบรมครูสถาปัตยกรรมไทย ม.ร.ว.มิตรารุณ เกษมศรี ศิลปินแห่งชาติ และ ‘พระพุทธกิติศิริชัย’ ซึ่งเป็นพระพุทธรูปที่สร้างขึ้นถวายสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ
วันนั้นตรงกับวันวิสาขบูชาพอดี เราก็เลยตั้งใจไปเวียนเทียนรอบพระมหาธาตุเจดีย์ด้วย ทุกๆ ปีทางวัดจะมีงานสวดและเทศนาธรรมภายในอุโบสถ ดอกไม้ธูปเทียนมีแจกอยู่หน้าทางเข้า (ทำบุญตามกำลัง) ไม่ต้องซื้อแพงๆ จากแม่ค้าข้างล่าง กว่าจะได้เวลาเวียนเทียนก็โน่นค่ะ 2 ทุ่ม ฝนตกมาซู่ใหญ่เหมือนน้ำมนตร์แล้วก็หยุดกึกซะเฉยๆ ให้ทุกคนที่มาได้เวียนเทียนตามตั้งใจ
วันที่ 3 : ศูนย์เรียนรู้การร่อนทอง
คลองทองในอำเภอบางสะพานมีประวัติความเป็นมาย้อนไปได้ถึงสมัยอยุธยา มีหนังสือจากพระจ้ากุยบุรีถึงพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศว่าพบทองที่บางสะพาน และได้นำถวายพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งต่อมาพระองค์ได้นำทองนั้นไปตีหุ้มมณฑปพระพุทธบาทที่สระบุรี ทุกวันนี้การร่อนทองในบางสะพานยังคงเป็นอาชีพหนึ่งที่ทำรายได้ให้ชาวบ้านทั้งในพื้นที่และต่างถิ่น เพราะไม่มีการปิดกั้นสัมปทานแต่อย่างใด วันไหนใครนึกอยากมาเสี่ยงโชคก็ถืออุปกรณ์เดินดุ่ยๆ เข้ามาได้เลยไม่ต้องขออนุญาตหรือจ่ายค่าเข้าให้ใครเพราะถือเป็นที่สาธารณะ
ผู้ปกครองจะพาเด็กๆ มาลองร่อนทองเองเลยก็ได้ แต่จะให้ดีกว่านั้น โทรศัพท์หาคุณลุงเล็ก – กฤษดา หมวดน้อย ที่ปรึกษาสภาวัฒนธรรมตำบลร่อนทอง หมายเลขโทรศัพท์ 081-378-8258 เด็กๆ ขออนุญาตเรียกว่าคุณตาเล็กดีกว่า เพราะคุณพ่อคุณแม่เรียกคุณลุงไปแล้ว คุณตาเล็กดำเนินงานอนุรักษ์วิถีภูมิปัญญาการขุดร่อนทองคำบางสะพานมานับสิบปี ไม่ใช่แค่ยินดีเป็นวิทยากรนำชมและให้ความรู้แก่เด็กนักเรียนนักศึกษาเท่านั้น แต่ยังสร้างลานวัฒนธรรม มีนิทรรศการเล็กๆ เป็นบอร์ดให้ความรู้ที่มาเกี่ยวกับการร่อนทอง จำลองบ่อขุดโบราณแบบใช้กว้านสำหรับนำดินขึ้นจากบ่อ น่าเสียดายที่เมื่อเกิดน้ำท่วมครั้งใหญ่ต้นปี 2560 นิทรรศการถูกน้ำพัดหายไปจนเกือบหมดแล้ว ในครั้งนั้น น้ำป่าที่พัดมาอย่างรุนแรงยังทำให้คลองทองที่เดิมกว้างเพียง 5 เมตร กลายเป็นคลองกว้าง 30 เมตรในชั่วข้ามคืน ผู้คนแห่กันมาทั่วสารทิศเพราะทราบข่าวว่าน้ำซัดเอาทองขึ้นมาด้วย ตาเล็กบอกว่าช่วงนั้นคนมาเสี่ยงโชคกันแต่ละวันนับพันคนเลยทีเดียว
นัดเจอกับคุณตาเล็กที่ท่ารถทัวร์ใกล้ๆ กับที่ทำการไปรษณีย์บางสะพาน คุณตาขึ้นรถมากับพวกเราแล้วนำทางให้เลี้ยวเข้าซอยทางไปวัดวังน้ำเขียว ไม่นานก็ถึงศูนย์เรียนรู้การร่อนทอง ซึ่งเป็นบ้านพักของคุณตาเล็กอีกคนหนึ่ง (เรียกกันว่าเล็ก2) ถ้าตาเล็ก 1 เป็นฝ่ายพีอาร์ ตาเล็ก2 ก็ถือเป็นฝ่ายเทคนิค คือดูแลเรื่องสถานที่และอุปกรณ์ให้เช่า รวมถึงมีความชำนาญเรื่องการร่อนทองเป็นอย่างดี อุปกรณ์ที่ต้องใช้ไม่มีอะไรมากนอกจากเลียง, พลั่ว และถังใส่ดิน ทั้งชุดนี้ค่าเช่า 100 บาท ได้แล้วก็เดินตามตาเล็กไปร่อนทองกันเลย
รายละเอียดต่อจากนี้ไม่ต้องอธิบาย ให้ดูจากรูปและวิดีโอค่ะ คือจากแค่ข้อเท้าเปียกจะเริ่มลามไปถึงน่อง ตอนหลังขอนั่งยองๆ แช่น้ำเลยจะได้ถนัด รวยเละค่ะงานนี้ ได้มาตั้ง 50 บาท (ราคาขายนะไม่ใช่น้ำหนักทอง)
ศูนย์เรียนรู้การร่อนทอง
อ.บางสะพาน ประจวบคีรีขันธ์
พิกัด N11.295747, E99.421930
คุณลุงเล็ก – กฤษดา หมวดน้อย ที่ปรึกษาสภาวัฒนธรรมตำบลร่อนทอง
โทร. 081-378-8258