บรูด้า…นักอ้าผู้น่ารัก
บรูด้า…นักอ้าผู้น่ารัก
บันทึกประสบการณ์เดินทางของครอบครัว ซึ่งล่องเรือออกไปตามหาวาฬบรูด้า เพื่อจะพบว่าตอนที่พวกเขาอ้าปากกินปลานี่ล่ะคือช่วงเวลาที่ทำให้เราตกหลุมรัก
ทริปดูวาฬบรูด้านี้เป็นทริปที่น่าตื่นเต้นสำหรับทุกคนในครอบครัว พวกเราเดินทางไปกับ Wild Encounter Thailand ซึ่งเป็นทัวร์บุกเบิกการท่องเที่ยวแบบ Wildlife Ecotourism หรือการท่องเที่ยวดูสัตว์ป่าเชิงอนุรักษ์ เราทุกคนตื่นแต่เช้าเพื่อไปขึ้นรถที่บริษัท โดยมีรถตู้ VIP มารอรับและมุ่งหน้าสู่ท่าเรือในมหาชัยออกปากแม่น้ำท่าจีน
เป็นโชคดีของกลุ่มเราคือ ได้ประเดิมเรือลำใหม่ชื่อเรือทิพย์มงคล 1 ซึ่งเป็นเรือที่ออกแบบเพื่อการดูวาฬโดยเฉพาะ สะดวกสบายทั้งห้องน้ำ และการบริการอาหารบุฟเฟ่ต์ ขณะนั่งเรือจะมีเจ้าหน้าที่อธิบายและให้ความรู้เรื่องวาฬ ทั้งความเป็นอยู่ อาหาร พฤติกรรม ถิ่นที่อยู่อาศัย วิธีการดูวาฬของเรือที่ถูกวิธีว่าต้องห่างวาฬอย่างน้อย 30-50 เมตร รวมถึงต้องมีระยะห่างเมื่อมีเรือลำอื่นๆในบริเวณใกล้เคียงด้วย
ขณะที่อธิบายอยู่นั้นเอง วาฬคู่แรกคือแม่กันยาและลูกของเธอก็โผล่มาอ้าปากกินปลากะตักที่เป็นอาหารหลักอย่างสนุกสนาน เราทุกคนดูด้วยความตื่นตาตื่นใจกับภาพวาฬที่โผล่ขึ้นมาตรงหน้า เมื่อดูแม่กันยากินปลาอย่างอิ่มหนำสำราญแล้ว เรือก็ได้หันหัวออกเพื่อที่จะไปดูวาฬตัวอื่นๆ บ้าง เราได้พบกับวาฬคู่รัก วาฬคู่เพื่อน เราจะสังเกตว่าวาฬอยู่จุดไหนโดยดูได้จากฝูงนกนางนวล ที่ไหนมีฝูงนกนางนวลบินเป็นกลุ่มบริเวณนั้นก็มีวาฬ เป็นการเอื้อกันระหว่างวาฬและนก เพราะในช่วงวาฬอ้าปาก ปลากะตักจะว่ายหรือโดดหนี จังหวะนั้นนกนางนวลจะบินมาโฉบกินปลากะตักรอบๆ วาฬ
ท้ายสุดก่อนหันหัวเรือกลับเราได้พบวาฬที่ชื่อเจ้าศรีสุข อ้าปากกินปลาให้ชมมากกว่า 50 ครั้ง จุใจกันเลยค่ะ มารู้ตัวอีกทีว่าอยู่บนเรือกันมา 8 ชั่วโมงกว่าแล้ว ความสุขช่างผ่านไปเร็วจริงๆ เราจึงกลับเข้าท่าเรือและเดินทางกลับกรุงเทพอย่างประทับใจและมีความสุข
TIP
Fact 1: วาฬบรูด้าเป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม ไม่มีฟันแต่มีซี่กรองหรือบาลีนที่ประกอบด้วยเคราติน (คล้ายเล็บและผมของคน) บรูด้าจึงไม่ได้เคี้ยวปลา แต่มีการ filter feed หรือกรองน้ำออกเพื่อกลืนปลาในปาก
Fact 2: บริเวณที่วาฬบรูด้าอาศัยและออกหาอาหารคือบริเวณอ่าวตัว ก หรืออ่าวไทยตอนบน ช่วงเดือนมิถุนายนถึงมกราคมของทุกปี
Fact 3: “กฎเหล็ก Wildlife Ecotourism คือการเคารพซึ่งกันและกันระหว่างมนุษย์กับสัตว์ จะต้องไม่ไปรบกวนสัตว์และเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมสัตว์ป่าที่อาศัยในธรรมชาติใดๆ ทั้งสิ้น เช่นการสัมผัส การให้อาหาร หรือการบังคับที่จะทำให้สัตว์เกิดความเครียดต่างๆ” จิรายุ เอกกุล Wild Encounter Thailand
สิ่งที่ต้องเตรียม: หมวก แว่นกันแดด ครีมกันแดด กล้องส่องทางไกล ขนมขบเคี้ยว
You must be logged in to post a comment.